บทกลอน
กวี : ฝนฉ่ำ
ฝนฉ่ำ ฝนโปรยปรายสาดสาย ชื่นชอุ่ม ละอองน้ำรวมกลุ่ม กลั่นชุ่มฝน เม็ดพราวพราย หยาดหยด รดสกนธ์ รื่นกมล เย็นภิรมย์ร่มหัวใจ หมู่แมกไม้ พฤกษ์ไพร ได้เริงร่า ปรอยจากฟ้าโรยริน ดินโอบไว้ ต้นกล้าน้อยก็พลอยเริ่มเติบใหญ่ แตกกิ่งใบ แผ่กระพุ่มเป็นคุ่มเงา เมฆครึ้มครึ้ม อึมครึม ฟ้าสลัว ฝนกระหน่ำมืดมัวตัวเปลี่ยวเหงา เหมือนน้ำตาไหลพรากจากใจเรา อีกไม่นานก็บรรเทาเรื่องเศร้าใจ ผ่านปัญหา พายุ อุปสรรค เราก็จักเข้มแข็งกล้า.. ดูเพิ่ม
ยังนิยมอ่านบทกลอน บทกวีกันไหม
อยากทราบว่าในยุคสมัยนี้ผู้คนนิยมอ่านบทกลอน บทกวีกันอยู่ไหมคะ พอดีว่าชื่นชอบการอ่าน และเขียนบทกวี มีคนชอบแนวเดียวกันไหมคะ ดูเพิ่ม
กวี : หลับเป็นสุขอย่างอบอุ่น
หลับเป็นสุขอย่างอบอุ่น ค่ำแล้ว เจ้าแมวจ๋าปิดเปลือกตาลงเบาเบาข้านี้จะคอยเฝ้าดูแลเจ้าให้ปลอดภัย อบอุ่นกายเถิดหนาจินตนาการสดใสสุขล้ำฉ่ำดวงใจเช้าวันใหม่ได้เบิกบาน พักผ่อนอย่างเต็มที่ให้เจ้ามีความสำราญหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณด้วยความฝันอันสวยงาม พบความสุขสดชื่น เมื่อตื่นมาตอนเช้านะ เจ้าแมวเหมียว 🐈 😊 เขียนเมื่อ : ๗ สิงหาคม ๒๕๖๖ ดูเพิ่ม
กวี : ดับไฟ รักษาแผลใจ
ดับไฟ รักษาแผลใจ เร่ารุ่มร้อนไร้สุข ทุกข์ถาโถมดังไฟโหมเผาไหม้ให้แดดิ้นดับไฟร้ายลามทำลายในดวงจินต์รักชีวินทุกชีวิตคิดเมตตา จิตอ่อนโยนนุ่มนวลควรสัมผัสใสแจ่มชัดมุ่งขัดเกลาคุณค่าค่อยผ่อนคลายหัวใจใช้เวลาพักรักษาเยียวยาบาดแผลใจ พักเยียวยาแผลบอบช้ำนะ..."ดวงใจ" เขียนเมื่อ : ๑๐ กันยายน ๒๕๖๖ ดูเพิ่ม
กวี : มนต์ฉมังมังกร
มนต์ฉมังมังกร ลายกอดเกี้ยวเลี้ยวรัดฉวัดเฉวียนมิ่งมังกรระเมียรเจียรวิจิตรผงาดล้ำจำเริญเพลินเพียงพิศปั้นประดิษฐ์ประดับกับเมฆินทร์ เวียงวัดวาอารามงามจำรัสกาลวิวัฒน์ก่อเกิดกำเนิดศิลป์เชื่อมสมานสานศรัทธาแห่งชีวินดังจิตจินต์ตามตำรับรับตำนาน จารผจงมงคลกมลาศสมดังปราชญ์ ศาสนาพาสืบสานจรรโลงใจผ่องใสในดวงมานอธิษฐานเฉิดฉมังดังมังกร เขียนเมื่อ : ๓ กันยายน ๒๕๖๖ ดูเพิ่ม
กวี : พลูด่างกระถางสีชมพู
พลูด่างกระถางสีชมพู หญิงสาวผู้หลงใหลในต้นไม้เธอนั้นได้ปลูกพลูด่างกระถางหนึ่งทุกเช้าเย็นเป็นเวลาเธอก็จึงเดินมาถึงชมพลูด่างอย่างเย็นใจ มันเคยผ่านการโรยรามาหลายหนถูกแดนลนแผดร้อนใบกร่อนไหม้มีเม็ดฝนรินรดหยดลงไปก็แผ่รากหลากกิ่งใบให้เธอชม เธอถนอมเฝ้าดูอยู่มิร้างในกระถางสีชมพูดูเหมาะสมมันยังรอดปลอดภัยปรายฝนพรมผ่านการล้มลุกคลุกคลานผ่านเวลา คงงอกเงยงดงามตามความหวังและมันยังพลังใจในคุณค่ากระถางน้อยสีชมพูดูง.. ดูเพิ่ม
อุทยานน้ำตา 6 : นิยายรักริมทุ่ง
ชายหนุ่มนั่งเขียนภาพความเศร้า... ละเลงด้วยสีน้ำตา แต้มเปื้อนบนกระดาษใจ แผ่นถ้อยสำนึกแห่งรัก... อาบทาหัวใจชายหนุ่ม ครุ่นคำนึงถึงเหตุการณ์ 14กุมภาพันธ์2534 นิทรรศการน้ำตา... วาเลนไทน์แห่งรัก ชายหนุ่มสรรหาดอกกุหลาบ จากสวนดอกไม้ ริมฝั่งชีบ้านติ้ว เพื่อหญิงสาวอันเป็นที่รัก ฟ้าคำราม... ชายหนุ่มหลุดจากอดีตแสนหวาน ต้นข้าวลู่ลม เต็งรังสลัดกิ่งตายลงทับต้นข้าว ชาวนาผู้อาภัพ อดีตรักสาวครู ชายหนุ่มย่ำไปบนคันน.. ดูเพิ่ม
เรื่องเล่าซุกซ่อนเรื่องราวความเศร้าไว้ในเรื่องเล่า
ซุกซ่อนเศร้าในเงาหม่นราวคนคุก ลุผ่านยุคทุกข์เข็ญที่เป็นอยู่ ร้าวเรื่องร้ายรายวันเกี่ยวพันตู เรื่องที่รู้ทำไม่รู้อยู่ร่ำไป ขังความคิดติดหนับกับฝันบ้า โลกชราเริ่มล้าโรยระโหยไห้ อ่อนแรงแข็งข่มลมหายใจ นับลิเกใบไม้ไปพลางพลาง ก่อกบฏคดคิดจิตบูดเน่า ที่เศร้ายิ่งเศร้าโศกกว่าโลกกว้าง นั่งยิ้มเหม่อลอยเหมือนปล่อยวาง ซ่าบซ่านทั่วสรรพางค์ระหว่างเวลา นับความว่างเปล่ากี่ว่างเปล่า ฟังเรื่องเล่ากี่ความเศร้าไม่เข้า.. ดูเพิ่ม
อุทยานน้ำตา 5 : อย่าให้มีน้ำตาอีกเลย
ว่างเปล่า... ราวป่าช้า แว่วเสียงสวดมนตร์ จากฟากฝั่งลำน้ำชี กังวาน ไพเราะ ดั่งเสียงสวดมนตร์ ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ เมืองเวสาลี ขึ้น15ค่ำ วันเข้าพรรษา... ชายหนุ่มสะบัดศีรษะ ขับไล่ความคิดที่ตามหลอน แว่วเสียงเพลง ฝนฮวยดอกจาน... ไอฝนสัมผัสใบหน้า หนาวเศร้า กุหลาบที่ถูกพับเก็บในสมุดบันทึก เหลือเพียงเศษซาก 8 พฤศจิกายน 2535 หญิงสาวอันเป็นที่รัก มอบให้เนื่องในวันเกิด พร้อมจดหมายรัก สลักข้อความหวานซึ้.. ดูเพิ่ม
อุทยานน้ำตา 4 :เพ้อรำพัน
บ่อยครั้ง... ชายหนุ่มเฝ้าเพ้อรำพัน อดีตหญิงสาวอันเป็นที่รัก "เคยจับเคียว เกี่ยวคู่กัน น้องลืมวัน เคยสุขสันต์เริงร่า" บุญออกพรรษา ปี2534 ริมฝั่งน้ำชี ลูบไล้เรือนผม โต้ลมหนาว พลบค่ำริมฝั่งน้ำ เรืออีโปง นาฟากชี ข้ามฝั่งกลับบ้าน ชายหนุ่มปล่อยน้ำตาไหล ขณะนั่งใต้ร่มจิก แว่วเสียงเพลง มาจากที่ใดสักแห่ง "ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วงที่พี่ชื่นชม หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว" ชายหนุ่มเปล่งเสียงร้องไห้.. ดูเพิ่ม
อุทยานน้ำตา 3 : กว่าที่เราจะพบเจอ จนฉันเผลอยิ้ม
ชายหนุ่มเอ่ยถามความเศร้า... เช้าของวันจันทร์ที่ 1 กันยายน 2557 เปิดอ่านสมุดบันทึกถึงหญิงสาว... วันพฤหัสบดีที่1กันยายน 2537 ก่อนเดินทางไปเรียน บนเส้นทางลูกรัง ปลายฤดูฝน ระยะทาง12กิโลเมตร ฉันไม่อยากไปแม้กระทั่งโรงเรียน แต่อานุภาพความคิดถึงเธอ มันยิ่งใหญ่เสมอ แต่ฉันต้องผิดหวัง ไม่มีแม้เงาของเธอ... ดอกไม้บานเต็มทั่วบริเวณโรงเรียน ยังเหี่ยวเฉา ในสายตาอันอ้างว้างของฉัน ฉันไม่อยากเรียน แม้กระทั่งวิชาภาษ.. ดูเพิ่ม
อุทยานน้ำตา 2 : หญิงสาวอันเป็นที่รัก
ขื่นขมลมหนาว เช้ากันยายน ริมทุ่งฝัน… ชายหนุ่มเฝ้ารอการกลับมา ของหญิงสาวผู้เป็นดั่งดวงใจ ใบหน้าเกรอะกรัง แต้มเปื้อนด้วยคราบน้ำตา นกเขาจับเกาะต้นตูมกา เพรียกร้องหาคู่ ต่อสามสี่ตัว กัดแทะซากปลาข่อน หญ้าคมปาวอาบน้ำค้าง รองรับฝ่าเท้าหยาบกร้านของชายหนุ่ม ขณะเขาย่ำบนคันนา ใส่รองเท้าแตะ 19 บาท ซื้อจากคลองถม เหม่อลอย... โดยที่ชายหนุ่มไม่ทันรู้สึกตัว เลือดไหลซิบที่เท้า จากผลงานหญ้าคมปาว โอ้ว หญิงสาว.. ดูเพิ่ม
กลอนสร้างภาพ EP7
แลฟ้า แลผืนน้ำ แวววับวาม กระจกใส ผืนป่า พนาไพร ให้จับใจ ใครใคร่ยล มุมมอง มองให้เห็น สะท้อนเล่น เป็นฉงน แลเป็น เห็นตัวตน ใช้สอนคน แยบยลใจ อุปมาดั่ง ภาพสะท้อนจากผืนน้ำ ทำให้เราเห็นอีกมุมมองหนึ่ง ของแนวป่าและท้องฟ้า เกิดเป็นความงดงามแบบรอบด้าน ที่แลดูสมบูรณ์ขึ้น อุปไมยเฉกเช่น การที่คนเรา รู้จักมองลึกเข้าไปข้างใน ทำให้ได้เห็นอีกมุมหนึ่ง ของตัวตนของเรา เกิดเป็นความเข้าใจที่ถ่องแท้มากขึ้น สามารถนำไปใช้.. ดูเพิ่ม
กลอนสร้างภาพ EP6
พวงงาม นามเฟื่องฟ้า มองแลมา ดั่งฟ้าเฟื่อง กลีบใบ ให้ประเทือง ใช่ดอกเรือง เฟื่องปัญญา เพลินพิศ พิศผิวเผิน พาเพลินเพลิน จำเริญหนา ลองพิ-จารณา สิ่งนานา ใช่ฝ้าฟาง อุปมาดั่ง ดอกเฟื่องฟ้าที่เราเห็น เป็นสีสันสวยงาม มิได้ผิดแผกจากธรรมชาติของดอกไม้โดยทั่วไป แท้จริงแล้ว มิใช่ตัวดอกอย่างที่เราเข้าใจ แต่เป็นเพียงกลีบใบ ของต้นเฟื่องฟ้าต่างหาก ส่วนที่เป็นดอกจริงๆนั้น คือส่วนที่เห็นเป็นช่อเล็กๆตรงกลางนั่นเอง อุ.. ดูเพิ่ม
กลอนสร้างภาพ EP4
ลั่นทม ระทมหรือ ขานนามชื่อ ฤาไฉน เล้าหรือ กันเรื่อยไป พิศด้วยใจ ไม่ระทม ดั่งเสียง ลือเล่าอ้าง สดับพลาง ครางขื่นขม แท้จริง น่าชื่นชม หาใช่คม คำเขาลือ อุปมาดั่ง ดอกลั่นทม ที่ใครได้ยินชื่อ ก็พาลคิดปรุงแต่งไปว่า คงจะเป็นสิ่งที่น่าเศร้าโศก เสียเต็มประดา แต่พอได้ยลตรงหน้า กลับพบเจอแต่ความงดงาม เหนือคำบรรยาย อุปไมยเฉกเช่น เวลาที่เราได้ยินใครเขาเอ่ยนาม บุคคลหรือสิ่งใด ที่ฟังดูแล้วไม่น่าดูชมสักเท่าไร ใจเร.. ดูเพิ่ม
กลอนสร้างภาพ EP3
ไม้งาม นามดอกโมก ถูกโฉลก สละสลวย น้ำค้าง พร่างพรายพรวย หอมระรวย อวยกลิ่นพราง คนดี ศรีสังวร แม้เร้นซ่อน ในดงหนาม กรุ่นกลิ่น ระบือนาม ขจรงาม เขตคามครัน อุปมาดั่ง ดอกโมกสีขาวบริสุทธิ์ ไม่ได้แลดูมีสีสีนฉูดฉาด หรือต้องตาแก่ผู้พบเห็น แต่อย่างใด กลับมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ยามเข้าไปสัมผัสใกล้ๆ และหอมกรุ่นอยู่เป็นเวลานาน อุปไมยเฉกเช่น ผู้ประพฤติ ปฏิบัติแต่คุณงามความดี โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน ไม่สนใจเกียรติยศ ชื่.. ดูเพิ่ม
กลอนสร้างภาพ EP2
รวงข้าว พราวช่อชู อิงเอื้อมภู ดูผสาน หลงลม มาเปรียบปราน สมสมาน เทียมทานภู ยิ่งสูง ยิ่งต้องน้อม เรียงรายล้อม ค้อมเคียงคู่ ใครเห็น ใคร่เอ็นดู ชมเชิดชู ทุกผู้นาม อุปมาเหมือนดั่ง รวงข้าวที่สุกงอมเต็มที่ พร้อมเก็บเกี่ยว ก็จะน้อมลำต้นลง และพริ้วไหวไปตามสายลม แลดูสวยงาม ผสมผสานกับแนวภูเขาได้อย่างลงตัว อุปไมยเฉกเช่น ผู้ที่ถึงพร้อมด้วยความสามารถ มักจะอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นอย่างยิ่ง สามารถปรับตัวและยืดหยุ่นได้.. ดูเพิ่ม