ความสัมพันธ์


The Five Love Languages ภาษารัก 5 อย่าง ที่แต่ละคนใช้เพื่อสื่อสารความรัก กับ คนรัก
5 ภาษารัก The Five Love Languages แนวคิดของ ดร.แกรี่ แชปแมน (Dr. Gary Chapman) ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาคู่รักชาวอเมริกัน ได้แบ่งภาษารักออกเป็น 5 แบบ เพราะแต่ละคนต่างมีวิธีแสดงออกถึงความรักที่แตกต่างกัน แล้วในคนคนหนึ่งก็อาจมีภาษารักได้มากกว่า 1 แบบ ขึ้นอยู่กับธรรมชาติที่คนคนนั้นเป็น สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้ตัวก่อนว่าเป็นคนเลือกใช้ภาษารักแบบไหน และ คาดหวังให้คนอื่นใช้ภาษารักแบบไหนกับตัวเอง โดยไม่ลืมทำคว.. ดูเพิ่ม

การสนับสนุนจาก ‘ครอบครัวทางใจ’ Support System คนที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย ไม่โดดเดี่ยว ให้พึ่งพิงในยามที่ต้องการ
ครอบครัวทางใจ Support System คือ กลุ่มคนที่คอยสนับสนุนเรา คนเหล่านี้อาจเป็น ครอบครัว เพื่อน พี่ น้อง คนรัก เพื่อนร่วมงาน หรือ ใครก็ตามที่คอยรับฟัง เป็นที่พึ่งพา เคียงข้างกันในทุกช่วงเวลา เป็นคนที่หวังดี เคารพ ให้เกียรติเรา สามารถเชื่อใจ ไว้ใจได้ มองเห็นด้านดี ๆ ของเรา อยู่ด้วยแล้วทำให้รู้สึกดี และ ช่วยให้เราข้ามผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ Support System ครอบครัวทางใจ กลุ่มสนับสนุนหลัก ๆ มีอยู่ 4 ด้าน.. ดูเพิ่ม

เปิดใจคบคนนอกสเปก Contra-Dating ออกเดตแบบไม่ปิดกั้นตัวเอง การเดตรูปแบบใหม่ คน Gen Z เปิดใจคบคนที่แตกต่าง
คนโสดส่วนใหญ่จะออกเดตกับคนที่ตรงสเปกมากที่สุด แต่ Contra-Dating เป็นวิธีเดตที่พลิกมุมคิดใหม่ว่า หากฝืนออกเดตเฉพาะกับคนตรงสเปกต่อไปเรื่อย ๆ แล้วยังไม่เจอคนที่มีเคมีเข้ากันมากพอ ให้ลองเปิดใจเดตกับคนนอกสเปก ซึ่งอาจทำให้เจอคนที่ใช่ได้มากกว่า โดยเฉพาะการตั้งสเปกที่ตายตัวเกินไป หรือ ความพยายามมองหาคนที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน สเปกจะกลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้พลาดโอกาสดี ๆ เพราะการยึดติดจะทำให้คนโสดไม่เปิดใจให.. ดูเพิ่ม

สามีที่จุ๊บภรรยาก่อนออกไปทำงาน ชีวิตจะยืนยาว ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
การศึกษาเก่าแก่จากเยอรมนี ที่จัดทำขึ้นในช่วงปี 1980 พบว่า ผู้ชายที่จูบภรรยาก่อนออกไปทำงานทุกเช้า จะมีอายุยืนกว่าคนที่ไม่จูบเฉลี่ยถึง 5 ปี ดร.อาร์เธอร์ ซาโบ ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยคีล รวบรวมข้อมูลตลอด 2 ปีจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นทั้งแพทย์ นักจิตวิทยา และบริษัทประกันภัยชั้นนำหลายแห่ง รวมทั้งหมดกว่า 110 คน พบว่า สามีที่จูบภรรยาก่อนไปทำงาน จะมีรายได้สูงกว่าคนที่ไม่จูบถึง 20–35 เปอ.. ดูเพิ่ม

ชีวิตดี ๆ ต้องมีคนที่ใช่ ‘คนน่าคบ 5 แบบ’ ที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จเมื่อมีพวกเขาอยู่ใกล้ ๆ
จิม โรห์น (Jim Rohn) นักเขียน นักสร้างแรงบันดาลใจ ปรมาจารย์ด้านพัฒนาตัวเองเคยพูดไว้ “You are the average of the five people you spend the most time with.” ตัวคุณคือค่าเฉลี่ยของคน 5 คน ที่คุณใช้เวลาอยู่ร่วมกับพวกเขาด้วยมากที่สุด ทฤษฎีอัตลักษณ์ทางสังคม (Social Identity Theory) อธิบายว่า มนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคม เมื่อคนนิยามตัวเองว่าเป็นสมาชิกของคนกลุ่มไหน ก็จะมีพฤติกรรมแบบนั้น เพื่อใ.. ดูเพิ่ม

🐾 เกมทายนิสัย คุณเป็นหมาแมวสายพันธุ์ไหน สไตล์ความรัก และใครคือคู่หูที่จะมาเติมเต็มหัวใจคุณ 💖
สวัสดีชาว Postjung กันทุกคนค่ะ ค่ำๆ แบบนี้เรามาเล่นเกมกันดีกว่า กับ เกมทายนิสัยคู่รักจากสายพันธุ์หมาแมว วันนี้เรามีคำถามทั้งหมด 5 ข้อ ที่จะช่วยบอกว่าคุณคือ หมาหรือแมวพันธุ์ไหนกันแน่ รวมถึงว่า คู่รักที่เหมาะกับคุณที่สุดควรเป็นสายพันธุ์อะไร ถึงจะอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ ไม่เหนื่อย ไม่ปวดหัว และไม่ทะเลาะกันจนเพื่อนต้องมาห้าม ถ้าพร้อมแล้ว มาหาคำตอบกันเลยว่าตัวตนลึก ๆ ของคุณ เป็นสัตว์แบบไหนกันแน่ แล้วคนแบ.. ดูเพิ่ม

NATO Dating การเดตที่ไม่เน้นผลลัพธ์ในความสัมพันธ์ แต่เน้นความทรงจำที่ดี มีความสุขที่ได้รู้จัก แต่ไม่คาดหวังว่าจะต้องเป็นแฟนเสมอไป
NATO Dating ย่อมาจาก Not Attached to Outcomes คือ ‘ไม่ยึดติดกับผลลัพธ์’ การมองหาความสัมพันธ์ใหม่ การเดตแบบไม่หวังผล ค่อย ๆ ดูกันไป เป็นรูปแบบการเดตที่เน้นสิ่งที่ได้ทำร่วมกันมากกว่าจุดหมายปลายทาง เมื่อการเดตตั้งอยู่บนฐานของการไม่คาดหวังผลลัพธ์จะทำให้สบายใจทั้งสองฝ่าย สุดท้ายไม่ว่าจะได้ลงเอยกันด้วยสถานะไหนก็ตาม ก็ยินดีที่คนนี้ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตเวลาหนึ่ง NATO Dating จึงเป็นสไตล์ที่ตอ.. ดูเพิ่ม

ความผูกพันทางอารมณ์ Emotional Attachment ความ ‘ผูกพัน’ หรือ การ ‘ผูกติด’ มากไปอาจไม่ใช่เรื่องดี
Emotional attachment หมายถึง ความผูกพันทางอารมณ์ หรือ ความรู้สึกที่มีต่อสิ่งต่าง ๆ ที่สำคัญในชีวิต ความผูกพันเกิดจากความทรงจำดี ๆ ที่มีร่วมกัน กลายเป็น comfort zone อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย สบายใจ เวลาที่เราผูกพันกับใครสักคน มักได้รับอิทธิพลจากคน ๆ นั้นมาด้วย กลายเป็น ‘ยึดติด’ โดยที่เราไม่รู้ตัว รู้ได้ยังไงว่าเรากำลัง ‘ติด’ ใครสักคนเกินไป ส่งข้อความไปหาเขาตลอด เขายังไม่ตอ.. ดูเพิ่ม

ความสัมพันธ์แบบ ยึดติด Codependent Relationship เมื่อฝ่ายหนึ่งให้ความสำคัญกับความต้องการของอีกฝ่ายมากเกินไปจนละเลยตัวเอง
ความสัมพันธ์แบบ Codependent Relationship หรือ ยึดติดกันและกัน เป็นความสัมพันธ์ที่รู้จักอย่างแพร่หลายในปี ค.ศ.1950 โดยใช้กับความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งมี toxic shame ซึ่งมักมีพื้นฐานมาจากปมในวัยเด็ก ประสบการณ์ที่ทำให้สูญเสียความรู้สึกในตัวตน อาการเสพติดบางอย่าง หรือ ความผิดปกติทางอารมณ์ ที่อีกฝ่ายหนึ่งมีลักษณะเป็นผู้ให้มากเกินไป จึงพยายามจะช่วยเหลือคนคนนั้น เช่น อาจจะช่วยปกปิด หรือ คอยตามใจ ปล่อยให้เ.. ดูเพิ่ม

Zombie-ing ผีแห่งความสัมพันธ์ เมื่อคนที่หายไปกลับมาอย่างคลุมเครือ ‘ไม่รักแต่ขอกั๊ก’ เพราะกลัวถูกลืม
พฤติกรรมแบบ Zombie-ing คือ การที่คนที่เคย Ghosting ไปแล้ว อยู่ ๆ ก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ เสมือนกับผีคืนชีพ วันดีคืนดีก็กลับมาหาแบบครึ่ง ๆ กลางๆ อย่างเช่น กดไลก์โพสต์ ดูสตอรี ส่งข้อความ ส่งอีโมจิ ส่งสติกเกอร์ หรือทักมาแบบไม่มีบริบทใด ๆ แต่ไม่มีการ ‘สื่อสารตรง ๆ’ ว่าต้องการอะไร เบื้องหลังจิตวิทยา กับ สถานการณ์ Zombie-ing เธอยังคงมีผลต่อหัวใ.. ดูเพิ่ม

ศิลปะของการเป็นคนจริงใจ
1.รู้จักคุณค่าของตัวเอง การเป็นคนที่จริงใจ ต้องเริ่มต้นจากการรู้จักตัวเอง รู้จักตัวตนที่แท้จริง รู้ว่าคุณค่าหลักของชีวิตว่าคืออะไร คนที่จริงใจจะรู้ว่าอะไรสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะตัดสินใจอะไรในชีวิต ก็จะวกกลับมาที่คุณค่านี้เสมอ ทั้งเรื่องงาน เรื่องคนรัก เรื่องซื้อบ้าน และเมื่อเรารู้จักคุณค่าของตัวเอง เราจะดึงดูดคนที่น่ารักจริงใจให้เข้ามาในชีวิตได้ด้วย 2.ค้นพบเสียงของตัวเอง คนจริงใจจะฟังเสียงของตัวเองเ.. ดูเพิ่ม

#HealingJourney: “นานแค่ไหนจึงจะลืมแฟนเก่า?” ถอดรหัสเวลาและเคล็ดลับ “ก้าวต่อไป” ที่คุณต้องรู้
การเลิกราเป็นเหมือนพายุอารมณ์ที่รุนแรง ไม่ว่าความสัมพันธ์จะจบลงแบบไหน การเยียวยาจิตใจก็เป็นกระบวนการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะลืมคนรักเก่าและก้าวต่อไปได้? บทความนี้จะถอดรหัสระยะเวลาทางวิทยาศาสตร์ พร้อมเสนอแนวทางในการใคร่ครวญและสร้างตัวเองใหม่เพื่อกลับมาเชื่อมต่อกับความสุขอีกครั้ง ภาวะ “ลมบ้าหมูทางอารมณ์” : เข้าใจกระบวนการไว้ทุกข์ หลังจากการ.. ดูเพิ่ม

เมาท์เรื่องชาวบ้าน นินทาคนอื่นกับแฟน ช่วยกระชับความสัมพันธ์
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ริเวอร์ไซด์ (University of California Riverside) ชื่อว่า ‘Spill the Tea, Honey’ ได้ศึกษาพฤติกรรมการสื่อสารของคู่รัก 76 คู่ในแคลิฟอร์เนียใต้ โดยใช้เครื่องบันทึกเสียงอิเล็กทรอนิกส์ (EAR) เพื่อติดตามบทสนทนาของคนเหล่านี้ตลอดทั้งวัน พบว่า คู่รักเหล่านี้ใช้เวลาประมาณ 38 นาทีต่อวัน พูดคุยเกี่ยวกับคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือคนรู้จักในชีวิต.. ดูเพิ่ม

Stonewalling Relationship ความสัมพันธ์แบบคุยด้วยก็ไม่คุย เหมือนพูดกับกำแพง
Stonewalling Relationship การสร้างกำแพงทางอารมณ์ เป็นรูปแบบความสัมพันธ์ที่กีดกันอีกฝ่ายออกจากตัวเองด้วยการไม่พูดไม่จา หรือปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในเรื่องใด ๆ เป็นพฤติกรรมที่เมื่อพูดอะไรออกไป อีกฝ่ายจะทำเป็นไม่รับรู้ ไม่ได้ยิน เหมือนว่ากำลังพูดคุยกับกำแพง แม้ไม่มีการทะเลาะ แต่พฤติกรรมนี้สามารถทำให้ความสัมพันธ์ถูกบั่นทอนได้ง่าย รูปแบบของ Stonewalling Relationship การสร้างกำแพงทางอารมณ์ 1.การสร้าง.. ดูเพิ่ม

จ้องตาสุนัข ความสุขเพิ่มขึ้น 300 % มองตาหมา = จ้องความสุขของใจ
งานวิจัยจากญี่ปุ่นรายงานโดยวารสาร Science พบว่า เจ้าของสุนัขมีระดับฮอร์โมนออกซิโตซิน หรือฮอร์โมนแห่งความรัก เพิ่มขึ้นถึง 300 เปอร์เซนต์ หลังใช้เวลากับสุนัขเพียงครึ่งชั่วโมง โดยโมเมนต์ที่กระตุ้นฮอร์โมนนี้มากที่สุด คือ ตอนสบตา กลับกัน นักวิจัยพบว่า เจ้าของกับสัตว์เลี้ยง ที่เวลาเล็กน้อยกับการสบตากัน ฮอร์โมนแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย ออกซิโตซิน “ฮอร์โมนแห่งความรัก” ออกซิโตซิน “ฮอร์โมนแห่งคว.. ดูเพิ่ม

น้ำเสียง มีพลังมากกว่าคำพูด สิ่งที่ทำให้คู่รักทะเลาะกันมากที่สุด
คำพูดมีส่วนในการสื่อสารประมาณ 7-10% เท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกเกือบ 90% มาจากการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูด โดยน้ำเสียงมีน้ำหนักถึง 38% และภาษากายอีก 55% นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงรู้สึกได้ว่า “มีอะไรแปลก ๆ” แม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดว่า “ไม่มีอะไร” ก็ตาม สมองตอบสนองกับน้ำเสียงมากกว่าคำพูด สมองของมนุษย์ถูกออกแบบมาให้ตรวจจับ สัญญาณอันตรายมาตั้งแต่สมัยมนุษย์ยุคหิน ที่มนุษย์ในยุคนั้นสามารถรู้.. ดูเพิ่ม

คู่รักแยกเตียงกันนอน ส่งผลกับความสัมพันธ์หรือไม่ แยกกันนอน เวิร์คจริงไหม
งานวิจัยจาก American Sleep Disorders Association and Sleep Research Society กล่าวว่า คู่รักส่วนใหญ่ที่นอนร่วมเตียงกัน มักจะประสบปัญหาถูกรบกวนจากอีกฝ่ายระหว่างนอนหลับอยู่เสมอ เมื่อถามลงไปถึงความคิดเห็น ว่าพวกเขาชอบที่จะนอนคนเดียวเดียวหรือนอนกับคู่รัก คำตอบก็ยังคงเป็นการนอนกับคู่รักอยู่ดี อาจเพราะสัญชาตญาณของมนุษย์ ที่ต้องการให้มีความใกล้ชิดและความปลอดภัยระหว่างหลับ นอกจากนั้น ในความสัมพันธ์จากมุมม.. ดูเพิ่ม









